รายงานคณะกรรมการบริษัท

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)

ปี 2566 เป็นปีที่ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนประสบกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบพหุปัจจัยเสี่ยง (Multiple Disruptive Risks) ในการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็ว อาทิเช่น ภาวะเงินเฟ้อ สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ความแปรปรวนของสภาพอากาศ สงครามกายภาพที่ก่อตัวตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การเพิ่มมากขึ้นของค่าครองชีพในการดำรงชีวิตของประชาชน ต้นทุนการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และทัศนคติกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นต้น ล้วนเป็นโจทย์ที่ท้าทายความสามารถต่อการบริหารจัดการธุรกิจในปีที่ผ่านมา บริษัทจึงต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอย่างมีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด

ด้านการบริหารจัดการ บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งรุ่นใหม่ๆ และผู้อาวุโส การเพิ่มยอดขายในช่องทางหลักต่างๆ ที่มีอยู่เดิม การคิดค้นพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้เกิดประสิทธิผล การปรับวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพ การเพิ่มพูนทักษะของพนักงานให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นต้น จากบูรณาการของการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น จึงส่งให้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปี 2566 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ปรากฏตามรายละเอียดผลการดำเนินงานของบริษัทซึ่งแสดงไว้ในคำวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของแบบ 56-1 One Report/รายงานประจำปีฉบับนี้

บริษัทให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) โดยในมิติด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทพัฒนานวัตกรรมด้านสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยใช้วัสดุและวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ในมิติด้านสังคม บริษัทบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน พัฒนาความรู้และทักษะให้แก่บุคลากรทุกระดับของบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรในอนาคต ในด้านบรรษัทภิบาล บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ซื่อสัตย์ โปร่งใส ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี บริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม คุ้มค่า และมีประสิทธิผล ดำเนินมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียมกัน

คณะกรรมการบริษัทพัฒนาระบบการกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน สร้างความเสมอภาค และให้โอกาสการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ บริษัทจึงได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 จากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยประจำปี 2566 รวมทั้งได้การรับรองเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) อีกด้วย

ในนามของคณะกรรมการบริษัท ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้าและผู้มีส่วนได้เสีย ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนบริษัทอย่างดีเสมอมา ขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมเผชิญสถานการณ์ที่ท้าทายในระดับสูงตลอดเวลา ผมขอให้มั่นใจว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นในการบริหารธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดีเพื่อเสริมสร้างรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องตลอดไป